ไม่รู้ว่าไม่รู้
สมองคนเราชอบคำชม ไม่ชอบคำติ ต่อให้ติเพื่อก่อมันก็ไม่ยอมรับ มันถือว่าเป็นการถูกโจมตีมันจะปิดกั้นทันที แต่อาการแบบนี้มันเป็นอันตรายต่อตัวของเจ้าของมันเองที่ตัดโอกาสให้ตัวเองได้พัฒนา
หลายครั้งต่อหลายครั้งที่เราไม่รู้ว่าเราไม่รู้ แถมยังมีอีโก้ที่สูงปิดกันโอกาสตัวเองจากคำแนะนำดีๆจากคนที่เขาหวังดีกับเรา หรือคนที่เขามาติเราเพื่อก่อ แต่เรากลับมองว่าเขามาว่าให้เรา มาเอาผลประโยชน์จากเราฝ่ายเดียว
ถ้าเราเปิดใจให้กว้าง ฝึกให้สมองอีกส่วนได้ทำงาน ไม่ใช่ใช้แต่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของเราอย่างเดียวมาเป็นตัวตัดสิน การที่เราจะฝึกพัฒนาตัวเองจากการที่เราไม่รู้ว่าเราไม่รู้ก็คือ การฝึกให้สมองด้านตรรกะเราทำงานให้ดีขึ้น เริ่มจากการควบคุมการตอบสนองต่อคำพูดหรือคำแนะนำดีๆที่คนอื่นหรือคนที่เขาสำเร็จมากกว่าเราแนะนำมา
เมื่อควบคุมการตอบสนองให้ช้าลงแล้ว ลองคิดวิเคราะห์ให้ดีว่าสิ่งที่เขาพูดมาบอกมามันจะทำให้เราดี เราพัฒนาขึ้นกว่าเดิม มีชีวิตที่ดีกว่าเดิมไหม?
ถ้าเราไม่มีกำแพงที่สูงเกินไปเราจะรู้ว่าถ้าเราเก่งจริงรู้จริงทุกอย่าง วิธีการเดิมๆของเราถูกต้องป่านนี้เราสำเร็จ ร่ำรวย หมดความกังวลเรื่องเงินๆทองๆไปนานแล้ว
บางครั้งเราเข้าใจไปเองว่าเราเก่งเรารู้ไปหมดทุกอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่รู้ว่าเราไม่รู้นั้นก็คือ "เราไม่รู้จักตัวเอง"
ศัตรูที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา ก็คือตัวเราเองนี้แหละ และขุมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดก็อยู่ที่ตัวเราเองนี้แหละ เมื่อเรายอมรับว่าเราไม่รู้ ก็จงเปิดใจให้คนอื่นที่เขารู้มาชี้แนะเราว่า "ขุมทรัพย์ในตัวเราอยู่ตรงไหน"